ข้าวคั่วหัวหอม ontour

...ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันรักเธอเท่าไหร่ ...เพียงแต่เธอนับเม็ดทรายในทะเลทราย โกบี ที่มองโกลเลีย นั่นไม่ถึงครึ่งที่ฉันมีให้เธอ....
...หากเธอคือทุ่งหญ้าสีเขียว กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ....ฉันอยากเป็นท้องฟ้า ที่กอดเธอไว้ในอ้อมกอด จน นิรันดร์..........
Enter

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เที่ยวฮาร์บิ้น

เที่ยวฮาร์บิ้น ธค.53 - มค.54




....หลังจากไปเที่ยวปากเซมา ปลายปีก็ได้ไปเยือน เมืองฮาร์บิ้น ที่จีน ความเป็นมาเนื่องจากว่า ตนเองเกิดมาครึ่งชีวิตแล้วยังไม่เคยเห็นหิมะของจริงเลย ก็เลยยากสัมผัสหิมะของจริงบ้าง จึงตัดสินใจเลือกเมืองที่จะไป ที่ที่มีหิมะ ด้วยตนเองเป็นคนชอบประเทศจีน อาจเป็นเพราะเตี่ยเป็นจีนจากซัวเถา และประเทศจีนมีความเป็นมาที่ยาวนาน มีวัฒนธรรม ภาษา และอื่นๆเป็นของตัวเอง จึงเลือกเมืองฮาร์ิบิ้น เนื่องจากมีทัวร์พาไปที่นั้น หลังจากนั้นจึงเลือกบริษัททัวร์ที่จะไปทาง net แรกๆ ก็ใจไม่ค่อยดีกลัวว่าทัวร์เค้าจะหลอกหรือเปล่าจนกระทั้งได้ไปถึงฮาร์บิ้น
....ฮาร์บิ้น เมืองอยู่ทางภาคเหนือของจีนติดกับรัสเซีย อากาศหนาวเกือบทั้งปี
....ครั้งแรกที่ลงถึงสนามบินใจไม่ค่อยดีเพราะเครื่อง delay จากเซียงไฮ้มา 2 ชม.กว่านั่งอยู่บนเครื่องเนื่องจากหิมะตกหนักที่สถามบินฮาร์บิ้น พอตอนเครื่อง landing มองลอดหน้าต่างหัวใจเสียวแว๊บ ๆ ว่าจะเป็นอย่างเพราะหิมะตกหนัก กลัวว่าสนามบินจะลื่น เครื่องจะไถล

...พอเครื่องจอดสนิท เรานึกอยู่ใจไหนว่าหนาวนักหนาวหนา นี่หรือที่เขาบอกว่าอากาศติดลบ 30 เรายังไม่รู้สึกอะไรเลย
...เมื่อเจอไกด์ ไกด์พาไปที่รถเพื่อที่จะเข้าโรงแรม พอประตูของสนามบินเปิดออกเท่านั้นแหละ ความเย็นยะเยือกมาเยือนที่อวัยวะที่ไกลหัวใจ เช่นมือ เท้า เดินไปอีกไม่เกิน 10 ก้าว เหมือนหูจะหลุดออก...

เที่ยวปากเซ

....หลังจากนั้นอีก 6 เดือนประมาณเดือน กค. ผมก็ได้ไปตามหาที่ที่ทุกคนบอกว่า ไนค์แองกาล่าแห่งเอเชีย หลี่ผี และ คอนพะเพ็ง อีกนั้นแหละแรงบันดาลใจจาก หนังเรื่องไม่มีคำตอบจากปากเซ
....ครั้งนี้ผมนั่งรถบขส.จากอุดร ตอนตี5.45 สหมิตรทัวร์ ถึงอุบลประมาณ บ่ายโมงครึ่ง รอรถ interbus ประมาณ 15.30 รถก็ออกจากสถานีรถ bus กว่าจะถึงปากเซประมาณ 5-6 โมงเย็น เข้าพักที่โรงแรมยอดนิยมของคนไทยอีกแล้ว คือโรงแรมแสงอรุณ ห้องดี ราคาถูก ในคืนแรกดีมาก แต่ในคืนที่ 2 แย่ไปหน่อยเขาให้ผมย้ายห้องไปห้องด้านหลังซึ่งเล็กกว่าแต่เขาลดค่าห้องให้นิดหน่อย เพราะมีทัวร์จากไทยไปเหมาทั้งชั้น ผมนอนอยู่ 2 คืน ประมาณ 1200 กว่าบาท
......หลังจากเข้าพัก 315 ในคืนแรกก็เริ่มออกตะเวนเที่ยว โดยหาที่กินข้าวริมโขง ก็ได้ไปกินข้าวที่ริมโขง ร้านตามรูปครับ ต่อด้วยสถานบันเทิงใต้โรงแรมชื่ออะไรไม่รู้ บรรยากาศผมชอบ เพราะมันเหมือนดิสโก้เทคสมัยผมเป็นวัยรุ่นเพราะจะมี ฟลอร์ด้านหน้าวงดนตรีไว้เต้น สมัยนี้ไม่มีแล้วต้องเต็นกับโต๊ะ กด beer laos ไปซะ 8 ขวดกับสารถี หลังจากนั้นต้องรีบกลับที่พักเพราะที่ปากเซ คอร์ฟิว 5 ทุ่ม
...เช้า 9.00 โมงเรานึกว่าจะมีรถไปหลี่ผีตลอดที่ใหนได้รถออกไปแล้ว และไม่รถไปที่หลี่ผีแล้ว ทั้งๆที่จากปากเซไปที่หลี่ผี คอนพะเพ็งเพียง 100 กว่าโลเท่านั้น
....ความซีดแป้ด !!! ภาษาบ้านผม ตรูจะทำงัยดี มาตั้งไกล highlight ก็หลี่ผี คอนพะเพ็งนี้แหละ
....ต้องไปให้ได้ ความคิดสั่งให้สองเท้าให้เดินข้ามฝั่งไปหารถที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม คำตอบคือ ไม่มี !!!!!! HMG ( Ho my god )
....สุดท้ายเลยโทรหาสารถีที่เที่ยวกันเมื่อคืนให้หารถให้ รออยู่ ชั่วโมงจึงได้ขื้นรถ เหมา 2500 ไม่รวมน้ำมัน
....สรุปถ้าจะหลี่ผีโดยไปรถประจำทางต้องตื่นแต่เช้า ไปแล้วกลับเลยไม่ได้ต้องนอนที่ดอนเด็ด หรือดอนคอน 1 คืนแล้วเช้าค่อยกลับมาที่ปากเซ ( ไม่น่าเชื่อ 100 กว่าโลไปแล้วกลับเลยไม่ได้ )
....หลังจากไปที่หลี่ผี คอนพะเพ็ง ผมว่าจำไปที่ไร่กาแฟต่อ ปรากฏว่าฝนตกอย่างนัก เลยต้องเปลี่ยนแผนกลับที่พัก เตรียมตัวกลับบ้านเพราะมีเวลาน้อย ต้องกลับมาไถนาหาเงินไปเที่ยว trip ต่อไป....


เที่ยวหลวงพระบาง

สะบายดี 1 หลวงพระบาง

...ย้อนหลังไปเมื่อปีที่แล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ดูหนังเรื่องสะบายดี 1 ของคุณ Sakchai แล้วมีแรงบันดาลใจอยากตามรอยหนังเรื่องนี้

...ปีใหม่หลังจากสะหลืมสะลือจาก ฤทธฺ์ของ แอลกอออฮ์เมื่อคืนที่ต้องนับถอยหลังวันปีใหม่ ผมก็ได้ ckeckin ที่สนามบินอุดร บินไปที่หลวงพระบาง ( ตอนนั้นสายการบินลาวมีเที่ยวบินจากอุดร ไปที่หลวงพระบางโดยตรง ค่าเครื่อง 2000 กว่าบาท กว่าเท่าไร่จำไม่ได้แล้วครับ ) เพียง 1 ชั่วโมงผมก็ไปยืนอยู่ถนนกลางใจเมืองหลวงพระบาง เออผมลืมบอกไปตอนที่นั้งเครื่องเป็นเครื่องบิน 60 ที่นั้ง 2 เครื่องยนต์เวลาขึ้นหรือลง มีอาการสั่นเล็กน้อย เที่ยวที่ผมนั่งมีไม่ถึง 15 คน ...

....อากาศร้อนมากตอนกลางวัน ผมก็เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัดต่าง ๆ ร้านอาหาร เกรสเฮาส์ สภาพตึกสวยงามแบบเดิมๆ เนื่องจากตอนนั้นผมมีแต่กล้อง vdo จึงไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งมามากนัก จึงมีแต่ภาพที่เริ่มหัดตัดต่อและลงเพลงแบบง่าย ๆ loadลงใน youtube...
...เย็น ๆ ก็ได้เดินขึ้นภูษี มีแต่คนไทยเป็นส่วนใหญ่ ผมนึกอยู่ในใจ คงจะตามรอยหนังเรื่องสะบายดี 1 เหมือนผม คนเยอะมากบนภูษี ยืนแบบเบียดเสียด แบบใหล่ชนใหล่ ผมได้ยินผู้หญิงไทยคนหนึ่งพูดแบบมีอารมณ์ว่า...แห่กันมาดูตะวันตกดินทำไมกันเยอะแยะ มันสวยอะไรกันนักหนา ที่บ้านเราก็มีตะวันตกดินเหมือนกัน ไป๊ ๆๆๆๆ กลับที่พัก....


....เช้าวันถัดมาก็ตักบาตรเช้าที่ปากซอยหน้าที่พัก ที่พักของผมอยู่ในซอยข้าง ๆกับร้าน Joma ขายพวกกาแฟ ที่พักช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่เลยแพง 800 บาท ค่าตักบาตรเช้าป้าเจ้าของที่พักจัดให้ 100 บาท พร้อมบริการปลุกตอนเช้า ค่ารถไปวังเวียง 320 บาท...

....หลังจากนั้นก็เดินเล่นตลาดเช้า ประมาณร่วมชั่วโมง แล้วก็มากินร้านกาแฟที่คนไทยชอบไปกินกันแทบไม่มีที่นั่ง แย่งกันกินเหมือนแจกฟรี เสียงดัง โวยวาย เห็นแล้วผมรู้เบื่อๆ เลยเดินไปอีกหน่อยนั่งสบาย ๆ ไม่หนวกหู

.....ประมาณ 3 โมงเช้าก็ออกจากหลวงพระบางโดยรถตู้ ใจไม่ค่อยดีว่าเขาจะไม่ให้ขึ้นรถเพราะเนื่องจากว่าเราจองรถกับบ้านป้าที่พัก ไม่ได้ซื้อที่สถานี เพราะมีอยู่คนหนึ่งที่เขาไม่ให้ขึ้นรถ คนที่โดยสารเขาบอกว่าเขาได้จองจากที่พักมาแล้ว

.....ถึงวังเวียงประมาณ 4-5 โมงเย็น หาที่พักก่อน ที่พักที่อยู่ติดกับแม่น้ำแพงไปหน่อยผมเลยเดินลึกเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ได้ห้อง 400 บาท ผมถามว่าห้องมีแอร์ใหม? เขาบอกผมว่ากลางคืนไม่ต้องมีแอร์ก็เย็นสบาย .... ตกดึก จริงของเขา

.....หลังจากนั้นก็เดินเล่นไปทั่วเมือง ไปจบอาร้านอาหารร้านหนึ่งติดกับแม่น้ำ กินลาบหมู หมูทอด beer lao อีกขวด ประมาณ 390บาท

.....ตอนที่นั่งรออาหาร จิบเบียร์ไปก็เห็นชาวต่างชาติมากันแบบครอบครัว บ้างก็มากับแฟน บ้างก็มากับเพื่อนเป็นกลุ่ม....ตอนนี้แหละที่ความหนาว ความเหงา มันเข้าเกาะที่หัวใจแบบไม่ทันตั้งตัว....

....เช้าวันถัดมาผมเดินหาอาหารเช้ากิน มีร้านขายโจ๊ก ติด ๆ กัน 3-4 ร้านกับปาท่องโก๋ อันใหญ่กว่าบ้านเรา แล้วก็ไปที่ท่ารถซื้อตั๋วกลับเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วกลับถึงอุดรประมาณ 5 โมงเย็นเป็นอันจบทริปนี้....

เที่ยวเวียงจันทน์

เที่ยวเวียงจันทน์ 1 คืน

เมื่อเดือนก่อน มิย.54 ได้มีโอกาสได้ข้ามฝั่งไปเที่ยวที่เวียงจันทน์ ได้ไปกินข้าวที่ท่าง่อน อร่อยดี แปลก ๆไปอีกแบบ สั่งลาบปลา ต้มยำปลา และ ปลาเนื้ออ่อนทอด กับ beer lao อีกขวด คิดเป็นเงินไทย 380 บาท โดยว่าจ้างสามล้อเครื่อง ให้พาไป กลับ เป็นเงิน 600 บาท หลังจากนั้นมาส่งที่โรงแรมแม่โขง พักที่นั้น 1 คืน ราคา 960 บาท ( แพงไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรนานนานที