ข้าวคั่วหัวหอม ontour

...ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันรักเธอเท่าไหร่ ...เพียงแต่เธอนับเม็ดทรายในทะเลทราย โกบี ที่มองโกลเลีย นั่นไม่ถึงครึ่งที่ฉันมีให้เธอ....
...หากเธอคือทุ่งหญ้าสีเขียว กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ....ฉันอยากเป็นท้องฟ้า ที่กอดเธอไว้ในอ้อมกอด จน นิรันดร์..........
Enter

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เที่ยวหลวงพระบาง

สะบายดี 1 หลวงพระบาง

...ย้อนหลังไปเมื่อปีที่แล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ดูหนังเรื่องสะบายดี 1 ของคุณ Sakchai แล้วมีแรงบันดาลใจอยากตามรอยหนังเรื่องนี้

...ปีใหม่หลังจากสะหลืมสะลือจาก ฤทธฺ์ของ แอลกอออฮ์เมื่อคืนที่ต้องนับถอยหลังวันปีใหม่ ผมก็ได้ ckeckin ที่สนามบินอุดร บินไปที่หลวงพระบาง ( ตอนนั้นสายการบินลาวมีเที่ยวบินจากอุดร ไปที่หลวงพระบางโดยตรง ค่าเครื่อง 2000 กว่าบาท กว่าเท่าไร่จำไม่ได้แล้วครับ ) เพียง 1 ชั่วโมงผมก็ไปยืนอยู่ถนนกลางใจเมืองหลวงพระบาง เออผมลืมบอกไปตอนที่นั้งเครื่องเป็นเครื่องบิน 60 ที่นั้ง 2 เครื่องยนต์เวลาขึ้นหรือลง มีอาการสั่นเล็กน้อย เที่ยวที่ผมนั่งมีไม่ถึง 15 คน ...

....อากาศร้อนมากตอนกลางวัน ผมก็เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัดต่าง ๆ ร้านอาหาร เกรสเฮาส์ สภาพตึกสวยงามแบบเดิมๆ เนื่องจากตอนนั้นผมมีแต่กล้อง vdo จึงไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งมามากนัก จึงมีแต่ภาพที่เริ่มหัดตัดต่อและลงเพลงแบบง่าย ๆ loadลงใน youtube...
...เย็น ๆ ก็ได้เดินขึ้นภูษี มีแต่คนไทยเป็นส่วนใหญ่ ผมนึกอยู่ในใจ คงจะตามรอยหนังเรื่องสะบายดี 1 เหมือนผม คนเยอะมากบนภูษี ยืนแบบเบียดเสียด แบบใหล่ชนใหล่ ผมได้ยินผู้หญิงไทยคนหนึ่งพูดแบบมีอารมณ์ว่า...แห่กันมาดูตะวันตกดินทำไมกันเยอะแยะ มันสวยอะไรกันนักหนา ที่บ้านเราก็มีตะวันตกดินเหมือนกัน ไป๊ ๆๆๆๆ กลับที่พัก....


....เช้าวันถัดมาก็ตักบาตรเช้าที่ปากซอยหน้าที่พัก ที่พักของผมอยู่ในซอยข้าง ๆกับร้าน Joma ขายพวกกาแฟ ที่พักช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่เลยแพง 800 บาท ค่าตักบาตรเช้าป้าเจ้าของที่พักจัดให้ 100 บาท พร้อมบริการปลุกตอนเช้า ค่ารถไปวังเวียง 320 บาท...

....หลังจากนั้นก็เดินเล่นตลาดเช้า ประมาณร่วมชั่วโมง แล้วก็มากินร้านกาแฟที่คนไทยชอบไปกินกันแทบไม่มีที่นั่ง แย่งกันกินเหมือนแจกฟรี เสียงดัง โวยวาย เห็นแล้วผมรู้เบื่อๆ เลยเดินไปอีกหน่อยนั่งสบาย ๆ ไม่หนวกหู

.....ประมาณ 3 โมงเช้าก็ออกจากหลวงพระบางโดยรถตู้ ใจไม่ค่อยดีว่าเขาจะไม่ให้ขึ้นรถเพราะเนื่องจากว่าเราจองรถกับบ้านป้าที่พัก ไม่ได้ซื้อที่สถานี เพราะมีอยู่คนหนึ่งที่เขาไม่ให้ขึ้นรถ คนที่โดยสารเขาบอกว่าเขาได้จองจากที่พักมาแล้ว

.....ถึงวังเวียงประมาณ 4-5 โมงเย็น หาที่พักก่อน ที่พักที่อยู่ติดกับแม่น้ำแพงไปหน่อยผมเลยเดินลึกเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ได้ห้อง 400 บาท ผมถามว่าห้องมีแอร์ใหม? เขาบอกผมว่ากลางคืนไม่ต้องมีแอร์ก็เย็นสบาย .... ตกดึก จริงของเขา

.....หลังจากนั้นก็เดินเล่นไปทั่วเมือง ไปจบอาร้านอาหารร้านหนึ่งติดกับแม่น้ำ กินลาบหมู หมูทอด beer lao อีกขวด ประมาณ 390บาท

.....ตอนที่นั่งรออาหาร จิบเบียร์ไปก็เห็นชาวต่างชาติมากันแบบครอบครัว บ้างก็มากับแฟน บ้างก็มากับเพื่อนเป็นกลุ่ม....ตอนนี้แหละที่ความหนาว ความเหงา มันเข้าเกาะที่หัวใจแบบไม่ทันตั้งตัว....

....เช้าวันถัดมาผมเดินหาอาหารเช้ากิน มีร้านขายโจ๊ก ติด ๆ กัน 3-4 ร้านกับปาท่องโก๋ อันใหญ่กว่าบ้านเรา แล้วก็ไปที่ท่ารถซื้อตั๋วกลับเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วกลับถึงอุดรประมาณ 5 โมงเย็นเป็นอันจบทริปนี้....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น